สูตรบริหารเงินเดือนอย่างไร ให้มีกิน มีเก็บ เหลือลงทุน

สูตรออมเงินบริหารเงินเดือนให้มีลงทุน

การมีชีวิตการเงินที่มั่นคงและมีเงินเหลือไว้สำหรับการลงทุนและการออมเงินนั้นเป็นความฝันของหลายคน แต่บางครั้งการบริหารเงินเดือนแต่ละเดือน อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน เพราะในชีวิตประจำวันนั้นเราต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็น รวมถึงรายจ่ายพิเศษเฉพาะกิจที่อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว หากไม่มีแผนการจัดสรรเงินที่เหมาะสม เงินเดือนก็อาจหมดไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้ตัว วันนี้เราจะมาแนะนำสูตรบริหารเงินเดือนที่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการใช้จ่ายเงิน มีเงินเก็บ และออมเงินไว้สำหรับการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอเสนอสูตร “บริหารเงินเดือนอย่างไร ให้มีกิน มีเก็บ เหลือลงทุน”

1. จดบันทึกรายรับรายจ่าย

ขั้นตอนแรกสำคัญที่สุดคือการจดบันทึกรายรับรายจ่ายทั้งหมดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน เงินโบนัส เงินพิเศษ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายประจำเดือน ค่าใช้จ่ายจิปาถะ การจดบันทึกจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมการใช้เงินของคุณได้ชัดเจน ว่าเงินของคุณไหลไปไหนบ้าง อะไรคือรายจ่ายที่จำเป็น อะไรคือรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย

2. แบ่งสัดส่วนเงินเดือน

เมื่อทราบรายรับรายจ่ายแล้ว ให้แบ่งสัดส่วนเงินเดือนของคุณออกเป็น 3 ส่วนตามสูตร 50-30-20 ดังนี้

แนะนำสูตร 50-30-20 วิธีออมเงินง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้

“สูตร 50-30-20” เป็นวิธีการจัดสรรเงินเดือนหรือรายได้ออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ช่วยให้คุณสามารถจัดการเงินได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในส่วนแรก 50% ของเงินเดือน จะถูกจัดสรรไปสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่าประกันสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งเป็นรายจ่ายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในการดำรงชีวิตประจำวัน การจัดสรรเงินส่วนนี้เป็นอันดับแรกจะช่วยให้คุณมีเงินเพียงพอในการจ่ายค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่จำเป็น

ส่วนที่สอง 30% จะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวเพื่อซื้อความสุข เช่น ค่าบันเทิง ค่าเครื่องแต่งกาย ค่าท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งเป็นรายจ่ายที่อาจไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดี การจัดสรรเงินส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้จ่ายสำหรับความบันเทิงและความต้องการส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ทำให้เงินส่วนอื่นๆ ขาดแคลน

ส่วนสุดท้าย 20% ของรายได้ จะเป็นส่วนสำหรับการออมและการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินสำหรับเป้าหมายระยะสั้น เช่น ซื้อสินค้าราคาแพง หรือเป้าหมายระยะยาว เช่น การเกษียณอายุ รวมไปถึงการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เสริมและผลตอบแทนในอนาคต การจัดสรรเงินส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่มีเสถียรภาพมากขึ้น

การนำสูตร 50-30-20 มาใช้นั้น คุณจำเป็นต้องมีวินัยและความมุ่งมั่นในการจัดสรรเงินตามสัดส่วนที่กำหนด รวมถึงการบันทึกรายรับ-รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การกำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ก็จะเป็นแรงผลักดันให้คุณบรรลุความสำเร็จในการบริหารเงินได้ง่ายขึ้น

3. วางแผนการใช้จ่าย

เมื่อทราบสัดส่วนเงินแต่ละส่วนแล้ว ให้วางแผนการใช้จ่ายแต่ละส่วนอย่างรัดกุม

  • ค่าใช้จ่ายจำเป็น: ควรจ่ายค่าใช้จ่ายจำเป็นให้ครบถ้วนก่อน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว: ควรตั้งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวและใช้จ่ายอย่างมีสติ
  • เงินออมและลงทุน: ควรแยกเงินออมและลงทุนออกจากเงินส่วนอื่นทันทีที่ได้รับเงินเดือน

4. หาวิธีเพิ่มรายได้

หากต้องการมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น คุณสามารถหาวิธีเพิ่มรายได้เสริม เช่น รับงานฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ หรือลงทุนในธุรกิจ

5. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย

ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณ เช่น

  • ทำอาหารทานเอง: จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการทานอาหารนอกบ้าน
  • ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ: จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันและค่าจอดรถ
  • เลิกชอปปิงฟุ่มเฟือย: ซื้อของเฉพาะสิ่งที่จำเป็น
  • เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ: เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อของทุกครั้ง เพื่อให้ได้สินค้าที่คุณภาพดีราคาเหมาะสม
  • มองหาโปรโมชัน: มองหาโปรโมชันและส่วนลด ประหยัดค่าใช้จ่าย

6. อดทนและมีวินัย

การบริหารเงินเดือนให้มีกิน มีเก็บ เหลือลงทุน ต้องอาศัยความอดทนและมีวินัย

เทคนิคในการบริหารเงินให้ประสบความสำเร็จ

  1. ตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน หรือการจ่ายหนี้ เป้าหมายจะช่วยให้คุณมุ่งมั่นและตั้งใจมากขึ้น
  2. บันทึกรายรับ-รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ การบันทึกจะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเองได้ดียิ่งขึ้น
  3. ตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับแต่ละหมวด และพยายามควบคุมไม่ให้เกินงบประมาณที่กำหนดไว้
  4. หักเงินออมและเงินลงทุนก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้บรรลุเป้าหมายทางการเงินตามที่วางแผนไว้
  5. ทบทวนงบประมาณและค่าใช้จ่ายเป็นประจำ เพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้
  6. พิจารณาหารายได้เสริมหากมีโอกาส เพื่อนำมาช่วยเสริมในส่วนของการออมหรือการลงทุน

การบริหารจัดการเงินเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมี และการใช้สูตร 50-30-20 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางรากฐานทางการเงินที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม ทุกคนอาจมีสถานการณ์และความจำเป็นในการใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป คุณอาจต้องปรับสัดส่วนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และเงินเดือนของตนเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการยึดมั่นและควบคุมการใช้จ่ายอย่างมีวินัย เมื่อคุณสามารถทำได้ คุณก็จะมีชีวิตทางการเงินที่สมดุลและมั่นคง

และอีกหนึ่งตัวช่วยทางการเงินเมื่อคุณต้องเผชิญกับสถานการณ์จำเป็น การมีบัตรกดเงินสดเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการวางแผนทางการเงินได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส พร้อมมอบความอุ่นใจในทุกสถานการณ์ ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับคุณมากที่สุด สามารถสมัครได้ง่าย หากสมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ย สำหรับใครที่สนใจ สามารถสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสได้ผ่านทางออนไลน์ที่ > https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2695 0000 

*อัตราดอกเบี้ย 19.8% – 25% ต่อปี, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า