รู้ไว้ก่อนโอน ป้องกันปัญหาโอนกรรมสิทธิ์

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ นั้นถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญในชีวิต หลายคนอาจตื่นเต้นกับการได้บ้านใหม่ จนลืมตรวจสอบรายละเอียดสำคัญก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในอนาคต บทความนี้จึงขอนำเสนอ 5 ขั้นตอนสำคัญที่ควรทำก่อนโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อป้องกันปัญหาและรักษาผลประโยชน์ของคุณ


ตรวจสอบข้อมูล

  1. ข้อมูลเจ้าของกรรมสิทธิ์ ตรวจสอบชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ว่าตรงกับโฉนดที่ดินหรือไม่
  2. ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ตรวจสอบเนื้อที่ สภาพ สิ่งปลูกสร้าง ตรงกับโฉนดที่ดินหรือไม่
  3. ภาระผูกพัน ตรวจสอบว่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีภาระจำนอง สิทธิการเช่า หรือการจำกัดสิทธิ์อื่น ๆ หรือไม่
  4. ค่าธรรมเนียม ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

ตรวจสอบสภาพ

  1. ตรวจสอบสภาพบ้าน ตรวจสอบรอยร้าว โครงสร้าง พื้น ฝ้า เพดาน ท่อน้ำ ท่อไฟ ว่าอยู่ในสภาพดี
  2. ตรวจสอบระบบสาธารณูปโภค ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ประปา น้ำเสีย ว่าใช้งานได้ปกติ
  3. ตรวจสอบสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบสภาพแวดล้อม พื้นที่รอบข้าง ความปลอดภัย เสียงรบกวน มลพิษ

เตรียมเอกสาร

  1. เอกสารผู้โอนกรรมสิทธิ์ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
  2. เอกสารผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
  3. เอกสารอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือสัญญาซื้อขาย
  4. เอกสารอื่น ๆ ใบอนุญาตปลูกสร้าง ใบรับรองการจดจำนอง

ทำสัญญาซื้อขาย
ควรทำสัญญาซื้อขายที่ระบุรายละเอียดครบถ้วน ชัดเจน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
และที่สำคัญควรให้ทนายความตรวจสอบสัญญาก่อนลงนาม

ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์

  1. ยื่นคำร้องขอโอนกรรมสิทธิ์ต่อสำนักงานที่ดิน
  2. ชำระค่าธรรมเนียมและภาษีที่เกี่ยวข้อง
  3. ตรวจสอบโฉนดที่ดินหลังโอนกรรมสิทธิ์

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

  1. อย่าโอนกรรมสิทธิ์ก่อนได้รับเงินค่าซื้อขาย
  2. อย่าเซ็นเอกสารใด ๆ โดยไม่ตรวจสอบ**
  3. อย่าไว้ใจบุคคลอื่นให้ดำเนินการแทนโดยไม่มีการตรวจสอบ**
    การซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่สำคัญ การตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบก่อนโอนกรรมสิทธิ์ จะช่วยป้องกันปัญหาและรักษาผลประโยชน์ของคุณได้เป็นอย่างดี

ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ มีอะไรบ้าง?

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ที่ดิน นอกจากจะต้องจ่ายเงินค่าซื้อแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมอีก หนึ่งในนั้นคือค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับกรมที่ดินเพื่อดำเนินการเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน
บทความนี้จะช่วยอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ มีอะไรบ้าง คิดเป็นอัตราเท่าไหร่ และใครเป็นผู้รับผิดชอบจ่าย


ประเภทของค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์

  1. ค่าธรรมเนียมการโอน คิดเป็น 2% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือราคาซื้อขาย กรณีมีมูลค่าไม่ถึง 3 ล้านบาท แต่ถ้ามีมูลค่ามากกว่า 3 ล้านบาท จะคิด 2%
  2. ค่าอากรแสตมป์ คิดเป็น 0.5% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือราคาซื้อขาย กรณีมีมูลค่าไม่ถึง 1 ล้านบาท
  3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ คิดเป็น 3.3% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือราคาซื้อขาย กรณีมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท
  4. ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง กรณีมีการกู้ยืมเงินจากธนาคาร คิดเป็น 1% ของยอดเงินกู้

ตัวอย่างการคำนวณค่าธรรมเนียม
สมมติเราต้องการซื้อบ้านในราคา 2 ล้านบาท
ค่าธรรมเนียมการโอน = 2% x 2,000,000 บาท = 40,000 บาท
ค่าอากรแสตมป์ = 0.5% x 2,000,000 บาท = 10,000 บาท
ภาษีธุรกิจเฉพาะ = 3.3% x 2,000,000 บาท = 66,000 บาท
รวมค่าธรรมเนียมทั้งหมด = 116,000 บาท

ใครเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่าธรรมเนียม
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ซื้อและผู้ขายจะแบ่งกันจ่ายค่าธรรมเนียมคนละครึ่ง แต่ทั้งนี้สามารถตกลงกันเองได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงในสัญญาซื้อขาย

การชำระค่าธรรมเนียม
สามารถชำระได้ที่กรมที่ดิน ณ สาขาที่ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์

เอกสารที่ใช้ในการชำระค่าธรรมเนียม

  1. ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม
  2. สำเนาบัตรประชาชน
  3. สำเนาทะเบียนบ้าน

หมายเหตุ

  1. อัตราค่าธรรมเนียมอาจเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบกับกรมที่ดินอีกครั้ง
  2. ค่าธรรมเนียมข้างต้นเป็นเพียงค่าธรรมเนียมหลัก ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการรังวัด ค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรมสัญญา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า